เราได้เคยเห็นกันมาแล้วว่า Facebook แฟนเพจที่มีคนติดตามเป็นหมื่น แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง โพสต์แต่ละอันได้รับการตอบรับเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลย
หรือเรื่องราวทางสังคมที่ได้รับการยกย่องชมเชยอย่างมาก แต่ผู้ติดตามจำนวนมากก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะบริจาคจริงๆ
ถ้านั่นฟังดูแล้วเหมือนกับ Facebook แฟนเพจขององค์กรไม่แสวงหากำไรของคุณ อย่าเพิ่งหมดหวัง
ในบทความนี้ เราจะสำรวจ 3 หนทางหลักที่จะทำให้เป้าหมายคนใน Facebook ของคุณสนับสนุน แบ่งปัน และให้มากยิ่งขึ้นกว่าที่เคยเป็น
และส่วนที่ดีที่สุดก็คือ เคล็ดลับในบทความนี้ที่มาจากแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดสำหรับองค์กรที่ไม่แสวงหากำไร ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นฐานของการทำวิจัยที่ต่อเนื่องและประสบการณ์จากผู้ใช้หลายพันคน
ดังนั้น การเตรียมเข้าถึง Facebook ด้วยแคมเปญการร้องขอสำหรับลดหย่อนภาษีในปีนี้ และการร้องขอในสิ้นปี คุณต้องนึกถึงเคล็ดลับเหล่านี้
1. ตรงประเด็น และ ขอ ขอ ขอ
คุณเคยโพสต์อัพเดทเรื่องสำคัญจำนวนหนึ่งลงบน Facebook และสงสัยว่าทำไมไม่มีใครตอบเลยไหม?
มันอาจจะเป็นที่คุณไม่ได้ขอให้ตรงพอ
มันเป็นสิ่งดีที่จะสร้างการรับรู้เกี่ยวกับเรื่องทางสังคมหรือแคมเปญ แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ได้สื่ออย่างตรงจุด คุณต้องบอกคนอื่นอย่างตรงไปตรงมาเลยว่าคุณต้องการให้พวกเขาทำอะไร
ตามหลักการของ Facebook การยิงตรงวิธีที่เข้าถึงจุดหมาย สามารถให้ประโยชน์อื่นๆด้วย
“เตรียมชุมชน Facebook ของคุณด้วยการกระทำที่เป็นรูปธรรม ที่สามารถทำได้ทางออนไลน์ และช่วยดึงดูดคนใหม่ๆ และนำเสนอวิธีการที่ง่ายและรวดเร็วในการมีส่วนร่วมและการกระจายข้อความของคุณ”
นี่คือบางตัวอย่างของวิธีการที่คุณสามารถส่งเสริมผู้ติดตาม Facebook ของคุณลงมือทำได้:
- แชร์โพสต์ รูป วีดีโอ บทความ หรือ อินโฟกราฟฟิก
- เปลี่ยนโปรไฟล์รูปของพวกเขามาเป็นอันที่คุณทำ
- บริจาครายเดือนและบอกต่อเพื่อนของเขา
- แทค อีเมล เซ็นต์จดหมาย เพื่อกระตุ้น หรือ ขอบคุณบุคคลสาธารณะ
ในขณะที่ผู้ติดตามบางคนอาจโต้ตอบโดยตรงในการนำเสนอของเราในประเภทนี้ แต่คนอื่นๆอาจต้องการการโน้มน้าวมากกว่านั้น นั่นคือเหตุผลที่ควรทดลองโพสต์หลายๆแบบ และมีการขอที่หลากหลาย ก่อนที่ผู้สนับสนุนของคุณจะมีส่วนร่วมมากขึ้น
2. จัดกิจกรรมที่เป็นรูปธรรมสำหรับผู้ติดตามออนไลน์ของคุณ
เรารู้กันว่าการมีปฏิสัมพันธ์กันทางออนไลน์ไม่สามารถทดแทนของจริงได้
เหมือนกันกับการออกเดทออนไลน์นั้นเป็นวิธีที่สุดยอดในการพบผู้คนใหม่ๆ แต่ในความเป็นจริงแล้ว การพบคนตัวเป็นๆเท่านั้นที่จะก่อให้เกิดความสัมพันธ์ที่แท้จริง
เช่นเดียวกันกับงานช่วยเหลือสังคมของคุณ
และข่าวดีก็คือ Facebook เป็นพื้นที่ในอุดมคติที่จะเชื่อมโยงและส่งเสริมกิจกรรมออฟไลน์ของคุณ
กิจกรรมของคุณไม่จำเป็นต้องเป็นผู้ระดมทุน แต่ทำได้ง่ายๆ อย่างการจิบชาตอนเช้า คืนแห่งข้อมูล การฉลองเหตุการณ์สำคัญสักอย่าง หรือการจัดปาร์ตี้เพื่อการออกแคมเปญใดแคมเปญหนึ่ง
ทางเลือกนั้นไม่มีที่สิ้นสุด
เมื่อคุณคิดจะส่งเสริมกิจกรรมออฟไลน์ของคุณ จงจำไว้ว่า
- ให้สร้างหน้ากิจกรรมบน Facebook แบบง่ายๆและชัดเจนแล้วแชร์บน wall ซึ่งก็คือพื้นที่สำหรับให้คุณเขียนคำบรรยาย
- สร้างการรอคอยอย่างคาดหวังโดยการพูดถึงกิจกรรมเพื่อนำไปสู่คำตอบที่รอคอย
- ชักชวนผู้เข้าร่วมให้โพสต์เหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น
- ขอบคุณผู้ที่เข้าร่วมและแชร์รูปบน wall ของเรา
เคล็ดลับเหล่านี้จะทำให้คุณมั่นใจว่าคุณไม่เพียงแต่สร้างสัมพันธภาพที่ลึกซึ้งกับผู้ที่เข้าร่วมเท่านั้น คุณยังได้สร้างความตื่นเต้นในชุมชน Facebook ของคุณที่กว้างขึ้น เนื่องจากคุณพูดถึงและแชร์รูปจากงานออฟไลน์ของคุณ
3. เชิญผู้คนให้ก้าวไปสู่ขั้นต่อไป และเป็นคนนำ
คำว่า ผู้ติดตาม ของ Facebook อาจทำให้เข้าใจผิดได้
เพราะในความเป็นจริงนั้น ท่ามกลางผู้ติดตามเหล่านั้น มีหลายคนที่พร้อมและมีความตั้งใจที่จะเป็นผู้นำ (ถ้าเพียงแต่คุณจะขอให้พวกเขาเป็น)
พวกเขาอาจจะเป็นผู้นำในชุมชนของเขาอยู่แล้ว เป็นผู้ทรงอิทธิพลต่อผู้คนบริเวณรอบๆตัวเขา หรือง่ายๆก็คือ คนที่มีใจสนับสนุนอย่างเหนียวแน่นอยู่แล้ว Facebook กล่าว…
“ผู้ติดตามที่กระตือรือร้นสามารถที่จะกลายมาเป็นผู้สนับสนุนที่แข็งแกร่งต่องานที่องค์กรของคุณทำ จงหาทางที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนที่ใส่ใจกับประเด็นทางสังคมของคุณอย่างลึกซึ้ง และให้โอกาสพวกเขาที่จะเป็นผู้นำแทนคุณทั้งในออนไลน์ และออฟไลน์”
หัวใจสำคัญที่จะเชิญผู้คนให้ก้าวไปสู่ขั้นต่อไป และเป็นผู้นำ ทั้งหมดทั้งสิ้นนั้นก็คือ การขอด้วยความมั่นใจ
ไม่ว่าคุณจะหาผู้นำสำหรับกิจกรรมครั้งต่อไป หรือจะหาคนที่มีอิทธพลทางความคิดเพื่อช่วยเผยแพร่ข้อความของคุณออนไลน์ คุณไม่มีอะไรจะเสียกับการที่จะขอความช่วยเหลือจากผู้ติดตามของคุณ
มันถึงเวลาแล้วที่จะประกาศให้พวกเขาได้รับรู้
จำหน้า Facebook ที่น่าเบื่อและปราศจากชีวิตชีวาที่เราพูดถึงกันตอนบนสุดของบทความนี่ได้ไหม
กับการกระตุ้นสักสองสามอย่าง ชุมชนที่ซบเซาก็จะกลายมาเป็นศูนย์กลางของกิจกรรมที่มีความมุ่งมั่นและมีพลังเพื่อประเด็นทางสังคมของคุณได้
ดังนั้น ลงมือทำในวันนี้ เราหวังว่าเคล็ดลับเหล่านี้จะช่วยให้คุณค้นพบศักยภาพที่แอบแฝงอยู่ในชุมชน Facebook ของคุณได้
ที่มา: resourcehub.blackbaud