เป็นการวัดทั้งปริมาณและคุณภาพของผู้บริจาครายใหม่ที่องค์กรกำลังหาอยู่ มีการแบ่งเป็น 4 กลุ่ม
1) การนับผู้บริจาครายใหม่และที่ได้กลับมา (New and reactivated counts)
2) การเข้าถึงผู้บริจาค (Donor penetration)
3) จำนวนบริจาคเฉลี่ยของผู้บริจาครายใหม่ (New donor average gift size)
4) ผู้บริจาคในระยะยาว (Long Term Value)
ผู้บริจาครายใหม่และที่ได้กลับมา (New and reactivated donors)
มี 3 แนวทางที่จะเพิ่มจำนวนผู้บริจาคคือ
1) รักษาผู้บริจาคที่ให้ในปีงบประมาณก่อนหน้านี้ (FY18) ให้มากขึ้น
2) หาผู้บริจาครายใหม่เพิ่มมากขึ้น (Acquire more New Donors)
3) ทำให้ผู้บริจาคที่หยุดไปกลับมาใหม่ (Reactivate more Lapsed Donors)
มีผู้บริจาครายใหม่กี่คน จากช่องทางไหนบ้าง DM แพคไหน กลยุทธ์อะไร และจูงใจให้ผู้บริจาครายใหม่ให้อย่างไร แหล่งข้อมูลของแพค จำนวนนี้เปรียบเทียบกับปีที่แล้ว และปีก่อนๆ แล้วเป็นอย่างไร และจำนวนผู้บริจาครายใหม่เปรียบเทียบกับผู้บริจาคที่หยุดไป (13+ เดือน ตั้งแต่ที่ได้บริจาคมา) ได้มีการทำให้กลับมาบริจาคอีกไหม
การหาผู้บริจาครายใหม่มักแพงกว่าการทำให้ลูกค้ารายเก่ากลับมาเสมอ
ในองค์กรของคุณมีผู้บริจาคที่หามาใหม่ และ กลับมาบริจาคใหม่จำนวนเท่าไหร่?
การเข้าถึงผู้บริจาค (Donor penetration)
คำนวณโดยหารจำนวนผู้บริจาคที่ยังให้อยู่ในบริเวณใดบริเวณหนึ่ง (ปกติใช้รหัสไปรษณีย์) โดยจำนวนครัวเรือนในภูมิศาสตร์นั้น
องค์กรของคุณมีการเข้าถึงผู้บริจาคในลักษณะใด?
จำนวนเงินบริจาคเฉลี่ยของผู้บริจาครายใหม่ (New Donor Average Gift)
มีความสัมพันธ์ในทางกลับกันระหว่างจำนวนผู้บริจาคที่ได้มา กับจำนวนเงินบริจาคเฉลี่ย ยิ่งได้จำนวนผู้บริจาครายใหม่เพิ่มมากขึ้นเท่าไหร่ ยิ่งส่งผลให้จำนวนเงินบริจาคเฉลี่ยลดลง
ตัวอย่างเช่น องค์กรอาจจะหาผู้บริจาครายใหม่ที่ดีที่สุดในปีหนึ่งๆ และมีจำนวนเงินบริจาคใหม่เฉลี่ยสูง
ในทางคล้ายกัน องค์กรอาจจะเลือกที่จะส่ง Direct mail ที่มีเป้าหมายไปที่ผู้บริจาคคาดหวังที่มีรายได้สูง หรือผู้ที่บริจาคจำนวนมากให้กับองค์กรอื่น
ผู้บริจาครายใหม่เหล่านี้จะให้ทั้งจำนวนเงินบริจาคเฉลี่ยสูงกว่าการหาผู้บริจาครายใหม่ในจำนวนมากๆ
ความสมดุลย์ของจำนวนผู้บริจาครายใหม่ที่ได้มาและขนาดของจำนวนบริจาคเฉลี่ย (รวมถึงต้นทุนในการได้มาซึ่งผู้บริจาคแต่ละราย) คือสิ่งสำคัญ
องค์กรของคุณมีความสมดุลย์ของผู้บริจาครายใหม่และจำนวนบริจาคเฉลี่ยอย่างไร?
ผู้บริจาคในระยะยาว (Long Term Value – LTV)
ไม่มีผู้บริจาครายใหม่รายไหนที่จะแทนที่ผู้ที่เคยบริจาคได้
LTV ดูจากมูลค่าที่ผู้บริจาคคนหนึ่งบริจาคทั้งหมดในระยะเวลา 5 ปี วัดจากกลุ่มต่างๆ ที่ได้มา
- ช่องทางที่แตกต่างกัน (online, direct mail, special events, etc.)
- Marketing efforts แคมเปญ และ แพค ที่แตกต่างกัน
- การได้มาซึ่งผู้บริจาคจากฤดู หรือเดือน ที่แตกต่างกันในปีนั้นๆ
- รายชื่อที่แตกต่างกันเพื่อให้ได้มาซึ่งผู้บริจาครายใหม่
มีความเกี่ยวข้องที่สำคัญระหว่างงจำนวนที่บริจาคครั้งแรกกับ LTV ของเขา ยิ่งเงินบริจาคจำนวนแรกสูงเท่าไหร่ ยิ่งมีแนวโน้มของการเป็น LTV ที่สูงกว่า
มีผู้บริจาคกี่คนในองค์กรของคุณที่บริจาคจำนวนมากในครั้งแรกและเป็นผู้บริจาคระยะยาว?